วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ประโยชน์ของการโหรบาร์ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย




จำนวนมหาศาล ทั้งแบบมีหลังคาและเปิดประทุน มินิรุ่นใหม่ที่ส่วนท้ายยกขึ้น หรือรุ่นเก่าที่ดูเหมือนกล,องใส่ไข่อยู่บนล้อของเล่น และรถมินิครบทุกสีจากแถบสีหลากหลายของแค็ตตาล็อกสีสเปรย์“อะไรกันเฟอะ" ผมสงสัย ก่อนที่จะได้เห็นสิ่งที่ตอบทุกคำถามของผม มีรถอยู่หนึ่งคันท่ามกลางมินิจำนวนมากตรงหน้ากำลังโบกธงที่บอกให้เรารู้ว่าเส้นทางของเราถูกขวางโดย ‘ไมอามินิ' เห็นชัดว่าน่าจะเป็นกลุ่มแฟนคลับอะไรลักอย่าง พวกเขากำลังส่งเสียงโห่ฮาและแน่วแน่อยู่กับความปลาบปลื้มในตัวเอง ราวกับว่าเมื่อทำแบบนี้แล้วอาจจะดึงดูดความสนใจได้มากยิงขึ้นอีก ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ทนโท่ว่านี่เป็นการชุมนุมของรถขนาดเล็กมากมายที่สุดในทวีปอเมริกาเลยละ ผมสงสัยว่าจะหาคำอะไรมาเรียกลักษณะการรวมตัวเช่นนี้ดี...มินินิดหน่อย ฝูงผึ้งไม่ละ ผมตัดสินใจแล้ว...เรียก รอบบิต ดีกว่า มันทำให้ผมนึกถึงฉากหนึ่งจากหนังเรื่อง ลอร์ด ออฟ เตอะ ริงส์ ที่กองทัพของฮอบบิตกรูกันเข้าไปในปาต้นไม้ยักษ์ แต่ต้นไม้เปลี่ยนเป็นตึกโรงแรมที่โผล่ขึ้นมาอยู่ข้างไฮเวย์ และเราอยู่ห่างจากชายหาดเพียงแค่หนึ่งช่วงตึก“นี่ละ คนที่เหมาะจะจัดอี เวนต์ฃองคุณ” อ เล็กชาพูดพลางส่ง ยิ้มให้คนขับผู้หญิงในรถมินิเปิดประทุนสีส้มซึ่งกำลังพยักหน้าชื่นชมกับงานเพนต์รถของเราเราถูกดูดเข้าไปในฝูงสัตว์ หรือฝูงฮอบบิตที่สมกับเป็นสไตล์อเมริกันจริงๆ คือทุกคนนั้นเป็นมิตรอย่างล้นเหลืออเล็กซาพูดถูก คนพวกนี้น่าจะชอบคนอังกฤษมากกว่านะ เทียบกับหนุ่มรถพอร์ชชาวสเปนของผม แต่ถ้าเป็นอย่างที่ผมสังหรณ!จละก็พวกเขาวางแผนที่จะแล่นขบวนแห่นี้ลงไปทางเซาท์บีชแน่เลย เฮชุสผู้น่าสงสารคงจะงงเป็นไก่ตาแตกเชียวละ เพราะเขาคงกำลังมองหารถมินิคันหนึ่งแบบ ไม่มีทางพลาด’ แต่กลับลงเอยด้วยการตกตะลึงไปกับรถมินิที่ขนมากันทั้งเผ่า ดูจากโชคชะตาของผมแล้ว ขบวนพาเหรดรถมินิน่าจะไปจ๊ะเอ๋เข้ากับสโมสรเจ้าของรถพอร์ชสีเหลืองแน่ และเราคงจะวุ่นวาย  กันน่าดู‘'คุณช่วยเร่งความเร็วอีกหน่อยและแซงพวกเขาไปไดไหม” ผมขอร้องอเล็กซา มีเลนหนึ่งของถนนสายใหญ่เส้นนี้ที่ดูเหมือนจะสงวนไว้ให้คนที,ต้องการจะขับตรงและเร็วกว่านิดหน่อย แบบเลี้ยวแฉลบไปแฉลบมาพร้อมกัน“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ’' เธอพูดและเหยียบคันเร่งเธอขับอย่างรวดเร็วไปยังเลนขวามือ แซงคันอื่นสบายบรื๋อแบบปารีเซียง เป็นเหตุให้คนขับรถมินิราวสามหรือสี่คันต้องกระแทกเบรกเมื่ออยู่ในทางวิ่งที่ (ค่อนข้าง) เร็ว เราเริ่มจะเคลื่อนห่างจากฝูงรถ และขณะที่เราทำเช่นนั้น คนขับรถอเมริกันขนาดยักษ์แบบทั่วไปหลายคันต้องกะพริบไฟรถด้วยความโกรธแบบข่มไว้ เหมือนเวลาที่พวกเขารอจะออกจากลานจอดรถของโรงแรม แต่มพระแร่บไบแก่ๆ ไว้หนวดเคราคู่หนึ่งยีนจ้องตาค้างมาที่รถของเรา บาร์โหนติดประตูราคา ราวกับเห็นการปรากฏตัวจากสวรรค์หรือไม่ก็นรกเราขับไปทางนี้ราวสองสามไมล์ และแผนที่กับหนังสือท่องเที่ยวของผมก็บอกว่าไม1มีทางให้ปลีกตัวออกไปหรือแซงไปข้างหน้าได้เลยมันเป็นเส้นทางที่ตรงยาวตามถนนไปจนถึงเซาท์บีช''เราคงต้องจอดรถและปล่อยให้พวกเขาผ่านไป'’ ผมพูด “ผมจะโทร.หาเอ-ชูสสสสส และบอกเขาว่าไม่ต้องสนใจรถมินิร้อยคันแรกที่เขาเห็นนะ”ทันใดนั้นมืช่องว่างระหว่างอาคารสูงทั้งหลายโผล่มาทางซ้ายมือเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ระหว่างโรงแรมสูงสองแห่ง อเล็กซาแฉลบรถไปมาแบบฝรั่งเศสอีกเล็กน้อย และพาเรามาจอดโดยไม่ทำให้เกิดการชนกันแบบรุนแรง เธอพบที่ว่างสำหรับจอด ดับเครื่อง แล้วเราก็นั่งคอย ปล่อยให้สายลมเย็นจากทะเลพัดผ่านเรา“เอ้ พี่ชาย” วิธีโหนบาร์ เลียงหนึ่งด้งเข้ามาจากหน้าต่างที่เปิดอยู่ของผม ผมหันไปและมองเข้าไปในรูรูหนึ่ง ดีนะที่การมองผ่านรูนั้นไม่หลอนเท่ากับการติดร่างแหไปกับฝูงรถมินิ ดังนั้นผมจึงไม่ได้เป็นลมเมื่อประจักษ์แจ้งว่ารูนั้นคือลำกล้องของปีนกระบอกหนึ่งปีนเก๊หรือ ปีนของจริงเนึ่ยนะ ไม1หรอกน่า ผมไม,อยากจะเชื่อเลย มันดูเหมือนรีโมตทีวีรูปทรงประหลาดๆ เลย มีสีเงินและส่วนโค้งเว้าที่ เกไก เหมือนกัน ปีนของจริงมันดู เล็กกว่าปีนที่ เห็นในหนังด้ว ยนะแต่แล้วผมก็คิดอย่างมีเหตุผล แบบเดียวกับที่ทอม ครูซทำ แล้วเขาก็น่ากลัวพอเสียด้วย“ฉันต้องการรถนาย พี่ชาย', เจ้าของปีนพูด เสียงของเขานุ่มและนึ่ง เขาเป็นชา ยหนุ่ม ผิวดำหน้าตาหล่อ เหลาใส่แว่นกันแดดทรงนักบินพร้อมด้วยผิวที่เนียนใส“รถของเรารึ” ผมถาม“ซ่าย ลงจากรถเดี๋ยวนี้,’ผมมองไปที่อเล็กซาซึ่งกำลังจ้องมองกระบอกปีนด้วยสีหน้าไม,อยากเชื่อแบบสุดขีดเซ่นเดียวกับผมเราลงมา ยกมือขึ้นให้เห็นแบบเดียวกับที่เขาทำในหนัง  บาร์โหนลดหน้าท้อง แม้แต่อเล็กซาผู้ปราดเปรื่องยังต้องยอมรับว่าเธอได้เรียนรู้เรื่องบางอย่างที่มืประโยชน์จากหนังอาชญากรรมอเมริกันด้วยเหมือนกัน“ผมไม่เชื่อหรอกว่าคุณอยากได้รถคันเล็กแบบนี้,, ผมพูด “มันจะไม่ทำกำไรมากกว่าเหรอ ถ้าไปเอารถฮัมเมอร์ส  หรือพอร์ช หรืออะไรทำนองนั้นน่ะครับ”“พอล ได้โปรด เงียบเถอะ,, อเล็กซากระซิบแว่นกันแดดสีเข้มทำทำเอกซเรย์ผม“ไม่มีทางหรอก พี่ชาย” มือปีนพูดขึ้นมาในที่สุด “ไม่มีใครอยากได้รถใหญ่ๆ งี่เง่านั่นอีกแล้ว ฮัมเมอร์สแม่งเฮงซวย กินนั้ามันมากเกิน  ไปด้วย เข้าใจมั้ย ราคานํ้ามันแม่งทำลายทุกอย่างให้ฉิบหาย พวกรถคันเล็กกับระบบไฮบรีดแบบใหม่นั่นมันเจ้งเลย เข้าใจมย ไม่มีใครอยากได้รถคันใหญ่ๆ ทุเรศๆ นั่นแล้วว


บาร์โหน

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

มิตรภาพคือความรัก..ชีวิตพราก สัญญาสลาย ตอนที่ 1

.............เจ้าหน้าที่ชันสูตร นายอำเภอ และเพื่อนๆ ทยอยกันมาพวกเขาพยายามแกะมือผมออกจากศพเขา ผมตัดใจไปจากห้องนั้นไม่ได้ พวกเขาเลยปล่อยให้ผมอยู่ในห้องนั้นเพียงลำพังราไห้และตะโกนร้องเพียงเดียวดาย ผมได้ยินเสียงพวกเขาอยู่นอกห้อง ใครคนหนึ่งพูดว่า “ปล่อยเขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ”แต่อีกคนบอกว่า “เห็นแก่พระเจ้าเถอะ พาเขากลับบ้านเหอะน่า”ผมสาบานว่าจะไม่มีวันทิ้งที่นั่นไปไหน ผมจะไม,ยอมขยับไปไหนทิ้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมรู้สึกได้คือความปวดร้าว ผมไม่รับรู้โมงยามนาทียืดยาวเหมือนเป็นชั่วโมงไปหมดแล้วมีคนนำร่างเขาออกไป ผมรู้ว่าจะไม่มีวันได้แตะตัวเขาเป็นๆอีก จะไม่ได้ยินเสียงเขาอีกแล้ว ผมทรุดตัวลงนั่งอย่างคนสิ้นหวังเหมือนตัวแข็งซาท่านั้นอย่างไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานสักเท่าใดเสียงคนพลุกพล่านข้างนอกซาลง ตำรวจจากไปเหลือไว้เพียงเพีอนไม่กีคนทีรอให้ผมจากห้องนันเสียที กระสอบทรายมือสอง เพีอนๆ อยู่คอยส่งผมกลับบ้าน พวกเขาเงียบงันไม่เอ่ยวาจา ส่วนผมก็เลิกตะโกนร้อง ตอนนี้จึงมีเพียงเสียงสะอื้นเบาๆ แสงของวันเริ่มคล้อยลงแล้วผมก็เริ่มรู้สึกสงบใจอย่างประหลาด อาจสงบได้เพียงชั่ววูบสั้นๆ แต่มีพลังปลอบโยนใจอย่างน่าแปลก....

.....และแล้วผมก็รู้สึกเลยว่าเขามา เหมือนกับว่าเขากำลังกระซิบ ผมไม่ได้ยินเป็นคำพูดในหู แต่ได้ยินเหมือนเสียงร้องไห้เบา ๆ ที่โสตรับเสียงใด ๆไม่มีทาง  จับได้ กระสอบทรายยักษ์ ผมรู้สึก'ได้ถึงเสียงของเขา เขากำลังวิงวอนผม ขอให้ผมออกไปข้างนอก ไปที่หลังเรือนเพื่อนบ้าน แล้วจะเห็นถังขยะตั้งอยู่แล้วนายจะเจอจดหมายที่นายอยากเจอ เอาจดหมายนั้นมาแล้วกลับบ้านซะผมวิ่งออกไปที่ถังขยะหลังเรือนเพื่อนบ้าน คุ้ยขยะและของทิ้งเหมือนคนบ้า ทุกคนคิดว่าผมสติแตกไปแล้ว แล้วตรงนั้น ตรงสุดก้นถัง..........

..... ผมก็เจอคำลาสุดท้ายของอัลเบิร์ตในนั้น เขาหมกขี้เลื่อยโน้ตไว้ในถังขยะเพื่อนบ้านเพราะไม่อยากให้ใครมาพบ จดหมายยังเขียนไม่จบด้วยซา ถ้อยคำบนกระดาษพร่าเลือนหมดสิ้น มันเปีอนรอยหยาดนั้าตา จดหมายยู่ยี่เริ่มต้น,ว่า “ถึงโจเอลที่รักยิ่งชีวิต” และจบลงด้วย “เธอคือมิตรรักที่สุดของฉัน ฉันจะรักเธอตลอดไป” นี่เองคือคำที่ผมอยากรู้มากที่สุด อยากรู้ว่าก่อนตายผมคือสิ่งสุดท้ายที่เขาคิดถึงเมื่อได้รู้จึงค่อยซาความรู้สึกว่าตัวเองโดนทรยศ โน้ตสั้นๆแผ่นนั้นพาผมกลับถึงบ้าน เพื่อหลบเร้นพักกายและใจลงบนเตียงของตัวเอง เป้าชกมวย เตียงคือที่หลบภัยจากโลกอันว่างเปล่าภายนอกแม้แต่ตัวผมเองก็ยังพอจะดีใจขึ้นบ้างที่ได้รู้ว่าเราสองคนได้ร่วมสร้างความเป็นเพื่อนรักชั่วชีวิตด้วยกันจรง ๆหลังจากคืนนั้น อัลเบิร์ตกลับมาหาผมอีก และอีกหลายครั้ง หลายวันและหลายเดือนต่อมา กาลเวลาล่วงเลยไปนานกว่าผมจะรู้ตัวว่าเขาได้มอบของขวัญอันยิ่งใหญ่ให้แก่ผมแล้ว ณจุดนั้นของชีวิต ผมไม่มืทางล่วงรู้ก่อนเลยว่าอนาคตของผมได้      

.........สัญญาณรัก เปลี่ยนเล้นทางไปแล้วจริง ๆ ผมจะทราบก่อนได้อย่างไรว่าผลกระทบจากเหตุการณ์นี้จะเป็นระลอกคลื่นละเทือนไปกระทบชีวิตของผู้อื่นอีกมากมายถึงปานนี้? ผมจะรู้ได้ไฉนเล่าว่าตัวเองจะก้าวจากเหวลึกของความสิ้นหวังท้อแท้ไปสู่ความรู้สึกขอบคุณชีวิต หรอกระทั่งมีความสุขเปียมล้นได้ถึงเทียงนี้ ผมจะล่วงรู้ได้หรือว่าคำสวดอธิษฐานตอนเป็นเด็กของผมได้รับคำตอบแล้วและชีวิตผมจะได้พบกับความหมายใหม่จริงๆ?ยากเหลือเกินครับที่ผมจะบรรยายการเปลี่ยนแปลงอย่างสึกซึ้งทรงพลังออกมาเป็นคำพูด ใจผมกังวลนักว่าแค่อักษรที่ร่ายบนกระดาษจะลดทอนความยิ่งใหญ่สง่างามของนาทีชีวิตที่ผมผ่านพบลงสิ้น เวลาที่เราเล่าถึงความสนุกที่ได้ผจญภัยย่อมมิอาจเทียบได้กับร้อยพันความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงยามเราได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น แม้รู้ทั้งรู้ก็ตาม แต่ขอผมลองพยายามดูเถอะนะครับ....

                                                                                      ......โปรดติดตามตอนต่อไป......




                                             
กระสอบทรายผ้าใบ


วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การรักษาระดับเสียง ในการพูด หรือการโต้แย้งเป็นเวลานานๆ


                                                  


พูดด้วยป้าเสียงปกติส่วนใหญ่แล้วการโต้แย้งที่ทำให้เกิดข้อทะเลาะกันนั้น มักจะเป็นการโต้แย้งที่พูดด้วยนํ้าเสียงที่รุนแรง หรือฟังแล้วมันขัดอารมณ์อย่างเช่นการขึ้นเสียง หรือการแสดงออกถึงนํ้าเสียงที่หงุดหงิด กระสอบซ้อมมวย เป็นต้นด้วยเหตุนี้เองทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราไม่มีเหตุผล แต่หากในทางตรงกันข้าม ถ้าเรานั้นพูดชี้แจงด้วยนํ้าเสียงที่ปกติ ไม่ได้มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง การโต้แย้งนั้นก็จะเป็นไปด้วยดี หาได้มีอะไรที่ทำให้เป็นเหตุใหญ่โตไม่นอกจากแววตาแล้ว นํ้าเสียงก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้คนอื่นเข้าใจความรู้สืกนึกคิดของเราในขณะนั้น ดังนั้นหากว่าเราไม่ยอมพูดด้วยนํ้าเสียงปกติ รับรองว่าปัญหานั้นจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนไม่โยงไปเรื่องอื่นเหตุที่ทะเลาะกันนั้นสาเหตุหนึ่งก็คือการน่าเรื่องเก่าๆมาโยกับเรื่องที่กำลังโต้เถียงกันอยู่ทำให้เรื่องมันพันโยงใยไปหมดสุดท้ายก็ต้องจบลงด้วยการทะเลาะนั่นเอง
  
ดังนั้นหากว่าเมื่อไรที่เรากำลังโต้เถียงกับใครอยู่ พยายามตั้งสติว่ากำลังคุยกันอยู่เรื่องนี้ หาใช่คุยเรื่องที่ผ่านมาแล้วไม่ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะทำให้เรามีเรื่องโต้เถียงกันใหญ่โตมากขึ้นไปอีก เรียกว่างานนี้ยาวแน่ๆ เลยระงับอคติที่มีไม่ว่าเราจะเคยมีข้อโต้แย้ง หรือว่าเคยมีอคติกับคนที่เรากำลังโต้เถียงมาแค’ไหน แต่หากว่าเราเกิดต้องโต้เถียงกับเขาจริงๆ ก็ให้เราระงับอคติ และคิดแต่เรื่องที่กำลังโต้เถียงกันอยู่ เพราะหากว่าเราไมหาซื้อกระสอบทราซ้อมมวยยอมลดละอคติที่มีใจของเราก็จะคิดแต่ว่าจะไม่ยอมแพ้ และคิดว่าตัวเองถูกอีกฝ่ายผิด ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมลดราวาศอกให้กัน

ทีนี้ละก็จะกลายเป็นเรื่องเป็นราวเข้าไบใหญ่อคตินั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะนอกจากจะทำให้เรามองอะไร  พลาดไปหลายอย่างแล้ว ยังทำให้เรากลายเป็นคนไม่มีเหตุผล และดูไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเอาเสียเลย เราคงไม่อยากจะเป็นเช่นนั้นหรอก จริงไหมรู้จักยอมรับการยอมรับในที่นี้ นั่นก็คิอการยอมรับว่า ความคิดของเราก็ไม่ได้ถูกเสมอไปขายกระสอบทรายมือสองเพราะบางทีในเรื่องที่เราคิดว่ารู้ชัวร์แล้ว ยังมีข้อผิดพลาด หรือมีจุดที่เราคาดไม่ถึงอีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรรู้จักที่จะยอมรับว่าเราเองก็สามารถผิดพลาดได้ จึงจะทำให้การโต้แย้งนั้นเป็นไปด้วยประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายหากว่าเรารู้จักที่จะยอมรับมวยสากลทุกอย่างมันก็จะง่ายขึ้น ไม่ต้องมาทะเลาะกันใหญ่โต หรือว่าผิดใจกัน เป็นการโต้แย้งกันในลักษณะของเหตุผลจริงๆการโต้แย้งหรือโต้เถียงทางด้านความคิดนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทั้งนี้เราควรจะต้องเรียนรู้ที่จะทำให้การโต้แย้งนั้นเป็นเรื่องของเหตุผลและความคิด ไม่ใช่ในเรื่องของอารมณ์ความรู้สืก ซึ่งจะทำให้เกิดความหมางใจในอนาคตได้นั่นเอง กาวรหลีกเลยมี่อกะเลาก่นมีหลายต่อหลายครั้งที่เมื่อมีการทะเลาะกันระหว่างเรากับคนใกล้ตัวแล้วก็จะมีคำพูดที่รุนแรงออกมา นั่นไมใช่เรื่องที่ดีเลย เพร'1ะเมื่อหายโกรธกันแล้ว คำพูดต่างๆ เหล่านั้นก็จะทำร้ายจิตใจของเราไปอีกนาน และก็อาจจะไม่สามารถทำให้พูดคุยกันได้เหมือนกับเมื่อวันวานเพราะมีเรื่องกินแหนงแคลงใจกันเสียแล้ว ดังนั้น เราจึงควรหลีกเลี่ยงคำพูดที่รุนแรงเวลาทะเลาะกัน ซึ่งคำพูดที่ไม่ควรจะพูดเลยเมื่อทะเลาะกันก็มีดังต่อไปนี้คำเๆยาบคายคำหยาบคายเก็บเอาไวไกลๆ เลยระหว่างที่ทะเลาะกัน เพราะคำหยาบคายเนี่ย    นอกจากจะดูว่าเราเป็นคนไม่ดีแล้วอุปกรณ์ซ้อมมวยราคายังทำให้สถานการณ์ระหว่างที่ทะเลาะกันนั้นเลวร้ายมากขึ้นไปอีก อย่างนี้แล้วเมื่อไรจะคุยกันรู้เรื่องกันเสียทีพูะใจและก้าว'หน้า  คำหยาบคายนั้นไม่ว่าจะเป็นมึงมาพาโวย หรืออะไรที่ร้ายแรงกว่านี้ก็ห้ามทั้งนั้น พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง และพยายามพูดกันดีๆ ให้รู้เรื่องกัน เพื่อลดอุณหภูมิของการทะเลาะให้ลดลงจะดีกว่าไม่งั้นมีหวังชาตินี้ทั้งชาติก็อาจจะคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก เพราะหากว่าเราพูดแรงไป เขาก็แรงตอบปัญหาที่แท้จริงก็ไม่ได้แก้กันพอดี

กระสอบทราย